ทัวร์เขมร นครวัด นครธม 3วัน 2คืน แลนด์เขมร

คุณสมบัติสินค้า:

SKU : CBD01

ชมความอลังการของปราสาทศิลปะขอมกับการท่องเที่ยวกัมพูชา นครวัดนครธม อารยะธรรมอันยิ่งใหญ่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ศิลปะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความเป็นมายาวนานที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจในความยิ่งใหญ่ครั้งนี้

หมวดหมู่ : เขมร

Share

เที่ยวเขมร 3 วัน 2 คืน เริ่มจาก อ.อรัญประเทศ
ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก นครวัด

 

วันที่ 1 อรัญประเทศ-โตนเลสาบ-องค์เจคองค์จอม

08.00 น. ต้อนรับคณะที่ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา อรัญประเทศ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองทั้งไทยและกัมพูชาแล้วเดินทาง สู่เมืองเสียมเรียบ ชมบรรยากาศสองข้างทางของชาวเขมร และธรรมชาติตลอดเส้นทางสู่เมืองเสียมเรียบ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (1) ณ ภัตตาคารของโรงแรม
13.00 น. เช็คอินเข้าโรงแรมพักผ่อนให้คลายเหนื่อย
14.00 น. เดินทางไปชมทะเลน้ำจืดหรือโตนเลสาบ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดนมีชาวเวียดนามและเขมรอาศัยอยู่บนทะเลน้ำจืดเป็นจำนวนมาก ซึ่งประกอบอาชีพด้วยการประมง จากนั้นนำคณะไปนมัสการพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเสียบเรียบ องค์เจคองค์จอม ที่ชาวเสียมเรียบมักจะมานมัสการเป็นประจำทุกวันสำคัญขอโชคขอพรเพื่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงาน และชมฝูงคางคาวแม่ไก่ที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณนั้น
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ (2) ณ ภัตตาคารในเสียมเรียบ พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง
20.00 น. เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก

วันที่ 2 เสียมเรียบ ปราสาทบันทายศรี-ปราสาทตาพรหม-ปราสาทบายอน-นครวัด-นครธม

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (3)
08.00 น. เดินทางไปชมปราสาทบันทายศรี ซึ่งสร้างตอนปลายสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมิน (พ.ศ. 1510) แต่มาเสร็จเอาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ซึ่งเป็นพระราชโอรส แต่คนที่สร้างต่อจนเสร็จเป็นพราหมณ์ ชื่อ คุรุยัชญวราหะ ตัวปราสาทสร้างเป็นแนวราบเป็นปราสาทเล็กๆ สร้างด้วยหินทราย ด้วยการแกะสลักภาพนูนต่ำอย่างสวยงามมาก โคปุระของปราสาท บันทายศรี มีลวดลายงดงามมากจำหลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ผ่านโคปุระชั้นนอก ซึ่งมีกรอบประตูที่ไม่ใหญ่มากนัก จะเป็นทางเดินปูลาดด้วยหินทราย สองข้างทางปักด้วยเสานางเรียง ทำด้วยหินทรายเช่นกัน ห่างเป็นระยะๆ ถัดออกไปเป็นสระบารายขนาดเล็ก ซึ่งกินเนื้อที่อ้อมไปถึงกลุ่มตัวปราสาทด้านใน ปราสาทบันทายศรี หรือที่ชาวเขมรเรียกว่าบันเตร์เสรย แปลว่า ป้อมแก่งสตรี ถ้าแปลตามภาษาสันสกฤษซึ่ง ศรี แปลว่าความดีงามแล้วก็อาจจะแปลได้ว่า ป้อมที่สวยงามนั่นเอง จากนั้นนำคณะเดินทางไปชมปราสาทตาพรม สร้านในปีพ.ศ.1729 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศถวายแด่พระราชมารดาเป็นในพระพุทธศาสนาที่มีขนาดใหญ่โตมากกว่าสนามหลวงของไทย ตั้งอยู่กลางป่าและมีแมกไม้ขึ้นปกคลุม
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (4)
13.30 น. จานนั้นชมกลุ่มปราสาทนครธมเริ่มจากสะพานนาคราช ซึ่งด่านหนึ่งเป็นศิลาสลักเป็นรูปเทวดากำลังฉุดนาค ส่วนอีกด่านหนึ่งเป็นรูกอสูรที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เท่าคนจริงรวมถึง 108 ตน และเป็นสะพานที่กษัตริย์เขมรใช้เป็นเส้นทางเสด็จผ่านออกเมืองนครธมของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นำชมประตูเมืองที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศที่วิจิตราพิสดารกว่าในประตูเมืองในประเทศต่างๆที่เคยพบมา จากนั้นชมปราสาทบายอนซึ่งเป็นศุนย์กลางของอังกอร์ธม หรือนครธมเป็นสุดยอดของปราสาทเขมร ในยุคราขกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยอดปราสาทขนาดยักษ์ทุกหลังจะแกะเป็นเทวพักตร์ 4 หน้าหันออกไปทอดพระเนตรความเป็นไปและทุกข์สุขของประชาชนทั้ง 4 ทิศ เดินทางผ่านพลับพลาหรือบัลลังก์ช้างซึ่งเป็นฐานของพลับพลา สร้างด้วยหินจำหลักการจับช้างและครุฑยาวประมาณ 300 เมตร เป็นสถานที่กษัตริย์นั่งทอดพระเนตร การสวนสนาม การซ้อมรบ และการเฉลิมฉลองต่างๆ นำท่านเดินทางสู่ปราสาทนครวัด ปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่ อลังการ ตระการตาและได้รับการขนานนามให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1ใน7 ของโลก สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่2 ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู เพื่อสร้างถวายพระศิวะ พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ ว่ากันว่าการก่อสร้างปราสาทนครวัด ก็เปรียบเสมือนย่อส่วนจักรวาลตามคติความเชื่อของอินเดียโบราณที่ขอมรับมาอีกทอดหนึ่ง โดยตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 1300 เมตร และยาว1500 มีคูน้ำขนาดกว้าง 190 เมตร ยาวด้านละ 1900 เมตรล้อมรอบ เชื้อกันว่าการก่อสร้างใช้ช่างวิศวกรควบคุมการสร้าง 500 คนส่วนแรงงานใช้ถึงหนึ่งล้านคน พร้อมทั้งใช้ช้างลากหิน ห้าพันเชือก และใช้แพรบรรทุกหินจากพนมกุเลน อยู่ห่างจากเสียบเรียบ 65 กิโลเมตร โดยล่องมาทางลำน้ำเสียบเรียบถึง เจ็ดพันแพ ประมาณกันว่าใช้เวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 37 ปี และนำท่านเดินทางข้ามสู่สะพานหินนาคราชที่มีความยาว 200 เมตร อันเปรียบเสมือนสะพานรุ้งที่เสื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์
ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของภาพจำหลักนูนต่ำ เรื่องมหาภารยุทธ์เรื่องรามเกรียรติ์ ภาพพระนารายณ์ อวตารในปางต่างๆการตรวจสอบของพระเจ้าสุริยะวรมันที่2 ภาพทหารขำขันของกองทัพแห่งกรุงสยามซึ่งเรียกกองทัพเสียมกุก ชมภาพการกวนเกษียรสมุทร เพื่อให้ได้น้ำอมฤตซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และมีความยาวถึง 49 เมตร และภาพจำหลักนูนต่ำที่สะดุดตาที่สุด อีกกลุ่มหนึ่งคือภาพเทพสัปสร หรือนางสัปสร จำนวนถึง 1635 นาง สลักอยู่บนฝาผนังระเบีงและโคปุระทุกชิ้น ซึ้งแต่ละนางแต่งกายและเครื่องประทับที่แตกต่างกัน ว่ากันว่าถ้าจำแนกทรงผมจะได้ถึง 36 ทรงผม และชมนางสัปสรา ที่ลักษณะแปลกๆ อาทิอัปสรยิ้มเห็นฟันอัปสราเผยอลิ้น 2 แฉก อัปสราทรงผมเซล่ามูน อุปสราใส่กางเกงขาสั้น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับที่พัก
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ (5)

วันที่ 3 เสียมเรียบ –วัดใหม่- ตลาดซาจ๊ะ- อรัญประเทศ – ตลาดโรงเกลือ

07.00 น. รัประทานอาหารเช้าในโรงแรม (6)
08.00 น. เยี่ยมชมภาพประวัติศาสตร์ในสมัยเขมรแดง ณ วัดใหม่
10.30 น. เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ระลึกฝากทางบ้านที่ตลาดเก่าเสียมเรียบ อาทิ ปลากรอบ ของที่ระลึกต่างๆ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (7) อิ่มหนำสำราญแล้วเดินทางสู่ชายแดน
16.00 น. เดินทางกลับถึงชายแดนอรัญประเทศ และกลับประเทศไทย พร้อมช้อปปิ้งที่ตลาดโรงเกลือ                       
18.00 น. ส่งคณะกลับ...โดยสวัสดิภาพ ด้วยความประทับใจ จบโปรแกรม
___________________________________________________________

อัตรานี้รวม
1. ค่ารถตู้ปรับอากาศระหว่างการเดินทาง (อรัญประเทศ -เสียมเรียบ -อรัญประเทศ)
2. ค่าโรงแรมที่พักพร้อมอาหาร 7 มื้อ
3. ค่าเข้าชมโบราญสถาน
4. มัคคุเทศก์ท้องถิ่น บรรยายภาษาไทย
5. น้ำดื่ม พร้อมผ้าเย็นตลอดการเดินทาง
6. พนักงานบริการ คอยให้ความช่วยเหลือ และดูและคณะตลอดรายการ
7. ค่าเรือเดินทะเลสาบ
8. วงเงินประกันอุบัติเหตุ 1 ล้านบาท/ท่าน
9. ค่าผ่านแดน วีไอพี ทั้งไทยและเขมร
10. ค่าผ้าขาวม้าคล้องคอ ป้ายคล้องคอ
11. ของว่างและลูกอม
12. เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม (เฉพาะวัน)

อัตรานี้ไม่รวม
1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย 3%
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
3. ค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากการกระทำของลูกทัวร์
4. ค่าทริป ไกด์  กำหนด 100 บาท/วัน/ท่าน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้